ขอบอกตรงๆ จากคนชอบเกมตระกลู souls นี่ไม่ใช่เกมแนว souls (แน่นอนล่ะ) จุดเด่น - บรรยากาศในเกมนี่สุดยอดจริงจริง เพลงเอย ฉากเอย - เกมเพลย์ที่มันส์ สะใจ ข้อเสีย - เกมบังคับผู้เล่นให้เล่นบท Sekiro คือคุณต้องเป็นไอ้นินจาแขนขาดนี่ให้ได้ ต้องปัดป้องให้ถูกทุกจังหวะ ไม่มีสายอื่น - ต่อจากข้างบน เกมเพลย์แบบนินจา สายซ่อนฆ่า เกมนี้ทำได้ยากมากเพราะจุดหลบให้เข้าไปฆ่าบางครั้งแทบไม่มีเลย ถึงมี่มันก็เห็นเราอยู่ดี - ต่อจากข้างบนอีกที ไอ้การสแปมปุ่มโจมตีเพื่อหวังจังหวะฆ่าทันที มันเป็นเกมเพลย์ที่มันส์อยู่หรอก แต่มันไร้ชีวิต ไร้คอมโบ ไร้สีสัน - ต่อจากข้างบนอีกรอบ หลังจากโจมตีก็ปัดป้อง ไอ้แทบปัดป้องเรากับแทบของมอนสเตอร์นี่ มันคนละโลกเลย เกมของผู้สร้างคน Fair มาตลอด แต่เกมนี้ไม่ - ตัวละครเราไม่มีท่ายกเลิกท่าทาง กดพลาดกลับตัวไม่ได้ ลองเปรียบเทียบกับเกมแนว Action อย่าง DMC5 - แล้วถ้าคุณตายในเกมนี้ มันจะเป็นยังไง การตายของคุณส่งผลกับเนื้อเรื่อง กล่าวคือ ห้ามตาย เป็นไปได้ไหมกับเกมที่มีความยากระดับนี้ (เป็นไปได้ แต่ผู้เล่นทั่วไปนี่ยาก) - แถมด้วยบางครั้งเปิดเกมขึ้นมาพบกับอาการเกมกระตุกเป็นหลินหุ้ย เลิกๆ สรุป 5/10 เกมมันให้บรรยากาศที่ดี แต่เกมเพลย์มันค่อนข้างแย่ ยากแบบไร้สาระ โดน 1-2 นัดร่วง โดยที่ทางแก้คือ กลับเข้าไปเจอแบบเดิม แล้วมาเสียใจที่ตายเยอะจนมีผลกับเนื้อเรื่อง เล่น stealth ก็ไม่ได้ เพราะเกมนี้มันไม่ใช่แบบ tenchu ที่จะวางข้าวปั้นยาพิษ ปาดาวกระจายให้ตายได้ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เขียนรีวิว Not recommend แบบนี้อีก

ควรระวังร้อนเพราะบอสบางตัวผ่านยากมาก ถ้าใครคิดจะเล่นคลายเคลียด แนะนำอย่าเล่นเกมนี้มันเคลียดยิ่งกว่าเก่า

เกมหัวควย แต่กูเล่นจบละสัส

ถ้าเต็ม 10 จะให้คะแนนที่ 6 ภาพสวยเนื้อเรื่องน่าติดตามแต่สำหรับผมเกมเพลมันไม่สนุก จากที่เล่มเกมแนวๆ นี้มาตลอดเล่นจบด้วย ตั้งแต่ Demon Soul / Dark Soul 1-3 / Bloodbone / Blasphemous / Salt and Sanctuary แต่พอมาถึง sekiro ช่วงแรกมันก็สนุกอยู่หรอกแต่พอเล่นไปเรื่อยๆ ถึงกลางๆ เรื่องมันน่าเบื่อ เบื่อสุดๆ เดินสู้ไปแป๊ปๆ สู้บอสละ เดินไปต่อสู้บอสละ ไต่เชือกข้ามๆ ไปสู้บอสละ เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นโหมด Boss rush เอาล่ะเราเสพฉากไปสั้นๆ แต่พอถึงบอสตายบ่อยก็รีบๆ ข้ามมาเพื่อสู้ใหม่ วนลูปแบบนี้ กับการสู้บอสตัวใหม่ไปเรื่อยๆ เราต้องสู้แทบจะเพอเฟกทุกครั้งเลยใช่มั้ย ในบรรดาเกมแนวนี้นี่เป็นเกมแรกที่รู้สึกว่าน่าเบื่อที่สุด การฟาร์มมีแค่อัพท่าสกิลเพิ่มความอึดเพิ่มการใช้ของเท่านั้น ไม่มีการสะสมอาวุธใหม่ใหม่พวกดาบหรืออย่างอื่นทำให้ไม่รู้สึกอยากสำรวจพิ้นที่เท่าที่ควร

ใครหัวร้อนแบบผม เกมคงไม่ใช่แนวครับ เล่นอยู่ครึ่ง ชม. คืนเงินเลยง่ะ 55555

สัสโคตรพ่อโคตรแม่ มึงจะเล่นยากไปถึง ไหม เนี่ย ตายแล้วตายอีก เวลาเลือดลดกำลังจะยกแดกยา มึงก็ไม่ให้กูได้กระดกยาเลย ตามติดตัวกูตลอด เลือดบอสเสือกลดน้อยมาก ทีเลือดกูแม่งฟันทีเดียวเลือดหมดไปครึ่งล่ะ แถมตายเงิน ค่า xp หมดไปเลย แล้วต้องให้กูมาไล่เก็บฟารมเกจค่า และเงินใหม่หมด อะไรหนักหนาว่ะ แต่ก็จะได้อารมณ์อีกแบบ รออะไร จัดมาเล่นซิครับ กุให้ ห้าดางไปเลย

ยากชิปหาย

จ่ายไป 1790 บาท สิ่งที่ได้กลับมาคือ ความประสาทแดกที่มากกว่าความสนุก ฝึกความใจเย็น อาจเสียเวลาเป็นชั่วโมงกับบอสหรือมินิบอสแต่ละตัว รู้สึกว่าผู้พัฒนาเกมไม่ได้มีความสร้างสรรค์ใดๆนอกจากจงใจให้เกมมันยากแต่อยากให้เล่นต่อเพื่อเอาชนะและเข้าถึงเนื้อเรื่องต่อๆไป โคตรเล่นกับความรู้สึกลูกค้า แขนกลนินจาไม่ได้ช่วยไรมากมายนอกจากเสริมความเท่ ระบบล็อคเป้าที่โคตรจะห่วยแตก

จอ 21:9 3440*1440 ไม่สามารถ แสดงผลเต็มจอได้ เซงมาก

สำหรับคนไทย ซื้อเถอะครับ ซับไทยแปลได้ดีมาก ยกตัวอย่างคำว่า “ขอรับ” “ตามพระบัญชา” ส่วนงานภาพก็อลัง แต่ไม่สวยมาก แต่ก็ไม่ค่อยกินสเปค ลื่นๆเลย ระบบต่อสู้อย่างมันส์ parry ลื่นไหล ใช้ kebord ก่ะ mouse ควมคุมได้ดีมาก แถวไม่ถนัดก็เปลี่ยนคีย์ตามใจเราได้อีก แนะนำครับ เล่นแปปเดียว ตาย 2 รอบ 55+

ต้องเป็นคนที่ไม่รักตัวเองเอามากๆ ถึงจะคิดซื้อเกมนี้ให้ตัวเองเล่น

เกมสนุก การแปลไทย บริบท ดีงาม. *ถ้ามี Achievement การตาย 50 กับ 100 ครั้ง คงปลดล็อคกันเป็นว่าเล่น* *ถ้ามี Achievement การเชื่อต่อ จอย หรือเม้าส์ คียบอร์ด ขาดหายระหว่างเล่น ก็คงมีปลดล็อคกันบ้าง* *ถ้ามี Achievement การร@$#@$%##$^@$@#^@$%$@^#@$#@@$@#$2* ლ(́◉◞౪◟◉‵ლ)

1700 บาทยังไงก็คุ้ม

ไม่อยากเสียสุขภาพจิต อย่าซื้อ แต่สนุกจัด

สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเล่นอย่าลืมคืนเครื่องรางให้คุโร่และอย่าลืมไปเคาะระฆังกันด้วยนะครับ เพื่อให้เกมสนุกยิ่งขึ้น

9.5/10 ไม่ต้องพูดเยอะ เอาตังกูไปเลย ไอ้มันส์มันก็มันส์อยู่หรอก แต่เหมือนทำมาไม่ให้กุเล่นจบอะ แต่ก็พอถูๆไถๆไปได้อยู่ พอเล่นเป็นเท่านั้นแหละ สนุก การตายถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ตายนี่สิแปลก โดยรวมคือดี สมส่วนดี เล่นแล้วสนุก ปนกับไออุ่นๆจากหัว เป็นไปได้เตรียมซื้อจอยไว้เล่นเกมนี้ซัก2-3อันก็ดี #ล้อเล่นๆ

ไม่แนะนำให้ซื้อเกมนี้เล่นครับ ไม่สนุก ไร้บาลานซ์ มีแต่คนไม่ฉลาดและชอบความเจ็บปวดเท่านั้นแหละที่เล่นเกมนี้เกิน 35 ชม.แล้วมาเขียนรีวิวย้อนแย้งจนงงอ่ะ

รีวิวจากผู้เล่นหน้าใหม่ในเกมสายนี้ บอกคำเดียวเลยว่า กาก!! เกมหรอ? เปล่า ไอ้เรานี่เเหละกาก!! ยอมเเล้วจ้า ยากเกิน ทะเลาะกับเเมวเพราะโมโหเกมมาเเล้ว ไม่เหมาะกับคนใจร้อน

ผมไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรเล่นไม่ได้กระตุกมากๆต้องปรับเป็น 800x600 all low ผมอาจจะเป็นผู้โชคร้าย555555 ปล.สเปค i7 gtx 1050ti

ยากจนต้องร้องขอชีวิต สูตรดาร์กโซลเวียนขวาศัตรูผ่านตลอด ใช้กับเกมนี้ไม่ได้ผล ถ้าเกมนี้เทียบกับบลัดบอร์น บลัดบอร์นเหมือนเดินเล่น สเตลต้องดีถ้าโดนรุมสองตัวเตรียมตายอย่างเดียวครับ ไม่ไหวรอลดราคาก่อนค่อยสอยใหม่ ปล.เกมดีครับ ดีทุกอย่าง มีภาษาไทยด้วย แต่ถ้าจะซื้อมาเล่นเพื่อผ่อนคลายอย่าเลย

no mini map Fuuuuuuuuuuuuuuuucking shhhhhhhhhhhhhhhhhhhhhit this game broken Fuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuuccccccccccccking camera lock buuuuuuuuuuu shhhhhhhhhhhhhit biiiiiiiiiiiiiiitcccccccccccccch เย็ดแม่ เกมกาก ไอ้สัสมินิแมพไม่มี กล้องก็ไม่ล็อกตัวศัตรู ควย เกมควยๆ เหมือนมึงทำมาให้พ่อมึงเล่นอ่ะ ไอ้หน้าหี ควย เกมเหี้ย หลอกแดกตังกู

เกมนี้ทำให้เราใจเย็นลงแอคชั่นก็สนุก เกมเพลย์ก็มันส์ เสียงดาบกระทบกัน สะใจสุดๆแล้ว

เกมนี้เล่นคลายเครียนได้ดีมากครับ

หัวร้อนฉิบหายแต่แม่งก็สนุกฉิบหายสัดเอ้ยยย

ถ้าคติในการเล่นเกมของคุณคือ No pain, no gain, no fun ละก็เกมนี้มันจะโคตรสนุกสำหรับสายมาโซคิสม์แบบคุณ

คงมีไม่กี่เกมที่ทำให้ผมรู้สึกอยากกระโดดด้วยความสะใจหลังจากเอาชนะศัตรูที่ขว้างทางอยู่ตรงหน้าได้ Sekiro : Shadow Die Twice เกม Action-Adventure จาก Form Software คือหนึ่งในไม่กี่เกมเหล่านั้นที่สามารถมอบความรู้สึกสะใจแบบสุดๆ กับการพิชิตศัตรูตัวฉกาจลงได้ Sekiro : Shadow Die Twice จะย้ายผู้เล่นจาก Theme ยุโร๊บยุโรปไปเป็น Theme ยุคสงครามเซ็งโงกุยุคที่ญี่ปุ่นลุกเป็นไฟจากการทำสงครามกันเองระหว่างไดเมียวของแคว้นต่างๆ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นโอคามินินจาผู้รับใช้องค์ชายคุโร่แห่งปราสาทฮิราตะออกพจญภัยไปทั่วทั้งแคว้นอาชินะเพื่อช่วยเหลือองค์ชายจากเงื้อมมือของผู้หวังใช้ประโยชน์จากสายเลือดของเค้า.... เห๊ย!!! มันเข้าใจง่ายใช่ไหมละจากเนื้อเรื่องของ Undead ที่ออกเดินทางต่ออายุยุคแห่งไฟไปทำไมก็ไม่รู้ไปจนถึงเรื่องราวของ Hunter ที่ออกพจญภัยระหว่างโลกความฝันและความจริงเพื่อหาเหตุผลที่สุดแสนจะมึนตึบมาเป็นเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่ายและถูกถ่ายทอดอย่างตรงไปตรงมาจนสามารถสร้างแรงจูงใจในการออกเดินให้กับผู้เล่นได้แบบไม่มีผิดเพี๊ยนจากที่ตัวเกมต้องการจะสื่อออกมาถึงแม้ว่าอาจจะมีแฟนๆ ของ Soulsborne หลายๆ คนที่อาจจะไม่ถูกใจกับเนื้อเรื่องที่ถูกเล่าออกมาแบบพื้นๆ ง่ายๆ แบบนี้อยู่บ้างแต่สำหรับผมผมค่อนข้างโอเคกับมันเลย ตลอดการเดินทางออกช่วยเหลือองค์ชายคุโร่ไม่มีตรงไหนเลยแม้แต่ช่วงเดียวที่ผมรู้สึกว่าการเดินทางของผมคือการออกตีบอสไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางไปต่อแบบที่ผมรู้สึกกับเกม Soulsborne หลายต่อหลายครั้งระหว่างการเล่น "ทิ้งอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเกม Dark Souls หรือ Bloodborne ไปให้หมด" คือสิ่งแรกที่ผมอยากอธิบายเกี่ยวกับระบบการเล่นของเกมนี้ เกมแนว Soulsborne จะเน้นให้ผู้หลบหลีกและโจมตีศัตรูให้ถูกจังหวะโดยมีค่า Stamina เป็นตัวกำหนดทิศทางในการออก Action ต่างๆ แต่ใน Sekiro ตัวเกมจะตัดระบบ Stamina ทิ้งและการ Dodge หรือ Roll มันก็ไม่ใช้วิธีป้องกันที่ดีที่สุดอีกต่อไป แฟนๆ Soulsborne คงเข้าใจดีว่าการหลบจะสำเร็จหรือไม่มันจะขึ้นอยู่กับว่าท่าโจมตีของศัตรูอยู่ในช่วง i-frames ของการ Roll ของผู้เล่นหรือเปล่าพูดง่ายๆ ขณะช่วงเวลา i-frames การ Roll ผู้เล่นจะเป็นอมตะกับการโจมตีทุกรูปแบบในเกม Soulsborne แต่กับ Sekiro การหลบนั้นจะสมจริงมากกว่าถึงแม้จะอยู่ใน i-frames แต่ถ้ามันอยู่ในระยะการโจมตีการหลบหลีกนั้นมันจะไม่เป็นผลการ Parry ด้วยดาบแบบในหนังซามูไรจึงเป็นวิธีการป้องกันทีถูกต้องกว่าของเกมนี้ นอกจากเรื่องการป้องกันแล้วการที่จะฆ่าศัตรูในเกมนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีเช่นกัน อย่างแรกคือการโจมตีใส่ศัตรูจนกว่าเกจ HP จะหมดแบบเกมทั่วๆ ไป ส่วนอีกวิธีคือการทำอย่างไรก็ได้ให้เกจค่าความสมดุลของศัตรูขึ้นจนเต็มเพื่อออกท่านินจาสังหารใส่ศัตรู (โจมตีใส่จุดตายของศัตรู) โดยเจ้าเกจดังกล่าวจะถูกเพิ่มจากการที่เราโจมตีใส่ศัตรูและทำการ Parry การโจมตีของศัตรูได้ถูกจังหวะและเมื่อเราหยุดโจมตีหรือป้องกันสักระยะเจ้าเกจนี้ของศัตรูก็จะค่อยๆ ลดลงตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นการหลบเพื่อทิ้งระยะห่างจากศัตรูและรอจังหวะที่แน่นอนแล้วค่อยโจมตีแบบที่ผู้เล่น Soulsborne นิยมทำมันแทบจะไม่สามารถนำมาใช้ได้กับเกมนี้เลย การต่อสู้ส่วนใหญ่ของเกมนี้มันคือการ Rush ใส่ศัตรูด้วยการยืนประจันหน้ากระหน่ำโจมตีและปัดป้องการโจมตีไปพร้อมๆ กันแบบไม่ได้พักหายใจจนกว่าจะฆ่าศัตรูลงได้ ต้องบอกว่าผมถูกใจกับการต่อสู้ของเกมนี้มากๆ ไม่ว่าจะจากการเล่นที่ท้าทายและสดใหม่ ไม่ว่าจะจากอนิเมชั่นการออก Action ต่างๆ ที่ลื่นไหลและสวยงาม ไปจนถึงการที่ตัวเกมพลักดันให้การต่อสู้ของมันคือการโจมตีและป้องกันไปพร้อมๆ กันทำให้ภาพการต่อสู้ของเกมนี้มันโคตรเท่ไม่ต่างจากการดูฉากต่อสู้ในอนิเมแนวนินจาหรือซามูไรเลย ถ้าให้พูดถึงนินจาคงหนีไม่พ้นเรื่องการลอบสังหาร อุปกรณ์นินจาต่างๆ และวิชานินจาสุดพิลึกในเกมนี้ก็มีทุกอย่างที่ว่ามาทั้งหมดไม่ว่าจะพวกดาวกระจาย มีดอาบยาพิษ ประทัดไฟไปจนถึงวิชานินจาอย่างการพรางตัวแถมตัวเกมยังมีระบบการเล่นแบบลอบเร้นที่สามารถ Stealth Kill ใส่ศัตรูที่ไม่ใช่ Boss ได้ในดาบเดียวอีกด้วยพูดง่ายๆ อะไรที่ให้ความรู้สึกว่านินจาควรจะมีเกมนี้นั้นมีครบ ถ้าคุณกำลังคิดว่าสิ่งพวกนี้มันอาจจะทำให้ตัวเกมมันง่ายขึ้นละก็ผมขอบอกว่ามันยังไม่หมดเพียงเท่านี้ตัวเกมมันยังมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มความเป็นมิตรให้กับผู้เล่นอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องจุด Checkpoint ที่มีอยู่มากมายซะจน Dark Souls 2 ที่ว่าโคตรเยอะมันดูธรรมดาไปเลย ทั้งเรื่องที่ตัวเกมจะมีกำแพงล่องหนกันไม่ให้ผู้เล่นพลาดตกลงไปในเหวอยู่ในหลายๆ ที่ และถึงแม้ว่าจะพลาดกระโดดลงไปเองตัวเกมมันก็ยังใจดีแค่ลด HP ของผู้เล่นลงเท่านั้น แถมยังมีเรื่องที่ตัวเกมอนุญาติให้ผู้เล่นสามารถตายได้มากกว่า 1 ครั้งก่อนที่จะต้องเริ่มใหม่ที่จุด Checkpoint อีก ยังยังไม่พอถ้าผู้เล่นรู้สึกว่าการสู้กับศัตรูนั้นมันยังยากไปอีกตัวเกมมันยังมีอุปกรณ์นินจาที่ค่อนข้าง OP อย่างพวกประทัดที่สามารถหยุดพวกศัตรูให้ผู้เล่นโจมตีฟรีๆ ได้อีกต่างหาก แฟนๆ เดนตายของค่ายนี้หลายๆ คนอาจไม่ชอบใจกันสักเท่าไหร่นักเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แต่เชื่อผมเทอะจริงๆ ของพวกนี้มันก็ไม่ได้ลดความยากที่ผู้เล่นจะต้องพบเจอในเกมนี้ลงซักเท่าไหร่หลอกนะ ลูกกระจ๊อกที่น่ากลัว กับดักที่โหดร้าย หุบเหวที่รอผู้เล่นพลาด จุด Checkpoint ห่างไกลที่คอยลงโทษผู้เล่น ของที่สร้างความหัวร้อนในเกม Soulsborne พวกนี้จะไม่มีอยู่ในเกมนี้สิ่งเดียวที่ทำให้เกมนี้นั้นยากคือ Boss และ Mini-Boss กว่า 40 ตัวที่ผู้เล่นมีสิทธิได้พบเจอระหว่างการออกเดินทาง บอสพวกนี้มันคือผาสูงชันที่จะให้ผู้เล่นใช้ความพยายามในการปีนป่ายผ่านมันขึ้นไปให้ได้ถ้าจะให้ผมยกตัวอย่างให้กับแฟนๆ ของค่ายนี้ว่าการเจอบอสของเกมนี้นั้นอยู่ระดับไหนถ้าเทียบกับเกมก่อนๆ โดยส่วนตัวผมคิดว่ามี Boss และ Mini-Boss อย่างน้อยรวมกัน 6-7 ตัวที่ผมให้อยู่ระดับเดียวกับ Orphan of Kos และแม่ชี Friede กับพ่อของเธอสองบอสที่ยากที่สุดของเกม Soulsborne สำหรับผม ขนาดมันมีจุดที่ยากแค่การสู้กับพวกบอสแต่จำนวนการตายกับเกมนี้ของผมอาจจะมากกว่า Bloodborne และ Dark Souls 3 รวมกันเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยการลอง Formular ใหม่ๆ จาก Form Software เจ้า Sekiro มันเลยยังไม่ใช่ผลงานที่ไร้ที่ติแบบรุ่นพี่ของมันอย่าง Bloodborne และ Dark Souls 3 ทำไว้ได้ ด้วยกระบวนท่านินจาที่ใส่ได้เพียงแค่ท่าเดียวต้องคอยกดหยุดเกมเพื่อเปลี่ยนมันมันเป็นอะไรที่ทำให้การต่อสู้นั้นไปไม่สุด(ท่าเทียบกับกระบวนท่าต่อสู้ของ Nioh ต้องยอมรับว่าเกมนั้นทำได้ยอดเยี่ยมกว่าจริงๆ) และการที่กระบวนท่านินจาอุปกรณ์นินจาและวิชานินจาล้วนใช้ยันต์นินจาในการใช้แทนที่จะจำกัดจำนวนการใช้ต่อรอบทำให้การสปามอุปกรณ์บางอย่างทำให้เกมนั้นง่ายลง สุดท้าย A.I. ของพวกลูกกระจ๊อกที่โคตรจะโง่ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ความสนุกนั้นหดหายลงไปอย่างไม่น่าเชื่อไม่ว่าขณะผมกำลังหนีจากกองทัพซามูไรด้วยใจเต้นระทึกอยู่ๆ พวกมันก็หยุดแล้วค่อยๆ เดินถอยหลังกลับประจำตำแหน่งเดิมของมันปล่อยให้ผมไล่ฆ่าที่ละตัวสบายๆ ซะอย่างงั้นเหตุการณ์พวกนี้ต้องบอกว่าผมเจอหลายสิบครั้งตลอดการเล่นก็ว่าได้ สรุป + ระบบต่อสู้โคตรเจ๋ง ทั้งเท่ ทั้งสนุกและโคตรท้าทาย + ศัตรูแต่ละตัวถูกออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมการดวลดาบกับพวกมันสนุกแบบไม่น่าเชื่อ + Level Design ดีงามพระราม 8 มันเต็มไปด้วยรายละเอียด มีมิติและมีคุณค่าพอให้ออกสำรวจทุกซอกทุกมุม +/- Bosses และ Mini-Bosses โคตรยากในการเจอรอบแรก +/- ตัวเกมมีความเป็นมิตรกับผู้เล่นมากขึ้น ทั้งจุด Checkpoint ที่มากมาย การลงโทษผู้เล่นอย่างตกเหวหรือโดนกับดักก็แค่ลด HP ลงและยังสามารถตายได้มากกว่า 1 ครั้งก่อนที่จะถูกส่งกลับ Checkpoint - A.I. ศัตรูโง่มาก เช่นถ้าออกห่างจากจุดที่ตนเองอยู่ระยะหนึ่งจะเลิกตามปล่อยให้ผู้เล่นโจมตีฟรีๆ หรือการเจอศพเพื่อนก็ไม่สงสัยอะไรเลยปล่อยให้เราแอบฆ่าได้แทบยกฉาก - กระบวนท่านินจาสามารถใส่ท่าได้แค่ 1 ท่าเท่านั้นถ่้าจะเปลี่ยนต้องหยุดเกมก่อน - พวกอุปกรณ์นินจา ท่านินจาและวิชานินจาใช้ยันต์นินจาร่วมกันพวกอุปกรณ์หรือวิชานินจาที่ค่อนข้าง OP จะสามารถใช้ได้บ่อยครั้งจนเกมเสียอรรถรสไปในบางจุด ต้องบอกว่า Sekiro : Shadow Die Twice นั้นสร้างความประหลาดใจให้กับผมได้อย่างไม่น่าเชื่อจากที่ผมคิดว่ามันคงจะไม่ต่างจากเกมเก่าๆ ของ Form Software อย่าง Dark Souls หรือ Bloodborne ในโลกของซามูไรแต่ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงแรกที่ได้ลิ้มรสชาติของมัน ตัวเกมมันทั้งสดใหม่ งดงาม โคตรเท่แถมยังคงเต็มไปด้วยความท้าทายที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมจากค่ายนี้ แน่นอนว่าเกมนี้มันไม่ใช่เกมสำหรับทุกคนถ้าใครกำลังหาความสนุกแบบเบาๆ ไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายอะไร Sekiro : Shadow Die Twice มันไม่ใช่เกมสำหรับคุณถึงแม้ว่าคุณจะโกงมันด้วย Mod หรือ Trainer ก็ตามแต่คุณก็ไม่อาจจะเข้าถึงรสชาติที่แท้จริงที่ตัวเกมต้องการถ่ายทอดให้กับผู้เล่นได้ สุดท้ายถ้าคุณเป็น Gamer ที่ชื่นชอบรสชาติของชัยชนะที่คุณต้องพยายามไขว้ขวามาละก็ Sekiro : Shadow Die Twice มันจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่เข้ามานั้งในใจคุณแบบที่มันทำกับผมได้อย่างแน่นอน ★︎ ★︎ ★︎ ★︎ ½︎